Web Analytics Made Easy - Statcounter

การตรวจเช็คและดูแลรักษากล้องวงจรปิด

การตรวจเช็คและดูแลรักษากล้องวงจรปิด

สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือการตรวจเช็คและดูแลรักษากล้องวงจรปิด ให้พร้อมใช้งานตลอดเวลาเนื่องจากตัวกล้องช่วยป้องกันเหตุอาชญากรรม ลดการสูญเสียในจุดที่มนุษย์ไม่สามารถไปประจำได้เป็นเวลานาน สอดส่องดูแลระบบจราจร ฯลฯ ส่วนใหญ่จะพบว่ากล้องวงจรปิด CCTV มักจะติดอยู่ภายนอกอาคารและมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอยู่พอสมควร เช่น เครื่อง DVR และอุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ เช่น สายเชื่อมสัญญาณ,แหล่งจ่ายไฟ(Power Supply),จอรับภาพ(Monitor),หัวต่อ(BNC),ขายึด(Bracket)  ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้มักจะเชื่อมสภาพไปตามเวลาและการใช้งาน ฉะนั้นจึงต้องมีการดูแลรักษาเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ ช่วยประหยัดงบประมาณในระยะยาวได้ และโดยทั่วไปมักจะตรวจเช็คในช่วงระยะเวลาทุก ๆ 3 เดือน วิธีการตรวจเช็คดูแลรักษาระบบนั้นแบ่งตามอุปกรณ์แต่ละส่วนได้ดังนี้

กล้องวงจรปิด (Camera)

  • ตรวจเช็คสภาพตัวกล้องหุ้ม (Housing) ว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ หากเป็นกล้องภายนอกอาคารตรวจเช็คตัวกล่องและกระจกกล่องกันน้ำว่าอยู่ในสภาพ ดีหรือไม่ หากมีอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่นพัดลมหรือ Heater ให้ตรวจเช็คว่าพัดลมระบายอากาศหรืออุปกรณ์Heater ยังทำงานอยู่หรือไม่?
  • เลนส์ (Lens) มีฝุ่นเกาะมากจนรบกวนการรับภาพหรือไม่? มีราขึ้นหรือสภาพเลนส์ดีอยู่หรือไม่?
  • ตรวจเช็คแผ่นรับภาพ (CCD) ยังทำงานเป็นปกติหรือไม่?
  • หากเป็นกล้องอินฟาเรด (IR) ที่สามารถมองตอนกลางคืนได้ ยังสามารภใช้งานได้หรือไม่?

อุปกรณ์บันทึกภาพ (Digital Video Recorder : DVR)

  • ตรวจเช็คว่ายังสามารถใช้ได้ครบทั้ง 4 หรือ 8 หรือ 16 Chennel หรือไม่?
  • การบันทึกยังสามารถบันทึกได้ตามปกติหรือไม่ ?
  • ตรวจเช็คการตั้งค่าต่าง ๆ ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่?
  • ตรวจเช็คการเล่นย้อนกลับ การสำรองข้อมูลใน ฮาร์ดดิสกล้องวงจรปิด ยังทำงานได้เป็นปกติหรือไม่?
  • ตรวจสอบการเชื่อมต่อคู่สายของแผงสัญญาณหลังกล่องยังใช้ได้หรือไม่?
  • สภาพโดยรวมภายนอกของกล่องและที่ตั้งกล่องเหมาะสมหรือไม่ เสี่ยงต่อความเสียหายหรือไม่?

แหล่งจ่ายไฟ (Power Supply)

  • ตรวจสอบกระแสไฟและแรงดันไฟที่จ่ายให้กับกล้องวรจรปิด อยู่ในสภาพปกติหรือไม่?
  • ตรวจสอบจุดต่อของแหล่งจ่ายไฟอยู่ในสภาพดีหรือไม่?
  • อุปกรณ์ห่อหุ้มแหล่งจ่ายไฟอยู่ในสภาพดีหรือไม่?

จอรับสัญญาณภาพ (Monitor)

  • ความคมชัดยังชัดเจนดีหรือไม่?
  • จุดเชื่อมต่อจากเครื่องบันทึกภาพอยู่ในสภาพดีหรือไม่?
  • การตั้งค่าต่าง ๆ ยังอยู่ในภาวะปกติหรือไม่?
  • สภาพจอโดยรวมมีการชำรุดเสียหายหรือไม่?
  • ระวังอย่าให้ของแข็งหรือน้ำกระทบหน้าจอ
  • ปรับแสงสว่างในจอให้พอเหมาะ เพราะถ้าสว่างเกินไปส่งผลให้จอภาพมีอายุสั้นลงได้

สายสัญญาณ (RG)

  • อยู่ในสภาพดีไม่ลอกหรือเปื่อย หรือไม่?
  • แถบยึดสายยังอยู่ในสภาพดี ไม่หลุดหรือเสื่อมสภาพ
  • ไม่ควรรวบสายสัญญาณไว้กับสายไฟ AC เพราะสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าจะรบกวนกัน
  • ควรหลีกเลี่ยงการพับหรืองอสายให้มากที่สุดเพราะอาจส่งผลต่อการทำให้สายสัญญาณขาดภายในได้
  • โดยทั่วไประยะการเดินสายสัญญาณจะขึ้นกับมาตรฐานสายสัญญาณ โดยระยะประมาณ 350 เมตรสายสัญญาณชนิด RG59 จะเหมาะเพราะมีขนาดเล็กและยืดหยุ่นสูง ระยะกลางๆประมาณ 450 เมตร เหมาะกับสายสัญญาณชนิด RG6 สามารถเดินสายได้ระยะไกลและราคาถูกและระยะทางไกลในช่วง 750 เมตรสายสัญญาณชนิด RG11 จะเหมาะที่สุด

หัวต่อ (BNC)

  • มีจุดชำรุดเสียหายหรือใกล้จะหลุดหรือไม่?

ขายึด (Bracket)

  • ตรวจเช็คจุดยึดระหว่างกล้องและขายึด และขายึดกับจุดยึดกับตัวอาคารว่าอยู่ในสภาพดี น๊อตยังอยู่ครบหรือไม่?
  • ปัจจัยการพิจารณาเลือกขายึดคือ น้ำหนักของตัวกล้อง,สภาพแวดล้อมของการใช้งานและวัสดุที่ใช้ทำ

เครื่องสำรองไฟ (UPS)

  • ตรวจเช็คแบตเตอรี่ว่ายังใช้งานได้เป็นปกติอยู่หรือไม่ ?
  • ระยะเวลาของการสำรองไฟฟ้ายังใช้ได้ตามปกติเท่ากับตอนที่ซื้อมาช่วงแรก ๆ หรือไม่ ?

สรุป

การตรวจเช็คและดูแลรักษากล้องวงจรปิด นั้นเป็นอะไรที่สำคัญอยากมากและที่สำคัญ มีเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นในการดูแลรักษาระบบ และที่สำคัญการดูแลอย่างต่อเนื่องจะทำให้ตัวอุปกรณ์ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นพร้อมทั้งยังได้รับภาพที่คมชัดเหมือนติดใหม่อยู่ตลอเวลาแต่ถ้าท่านยังไม่รู้ซื้อว่าเลือกซื้อกล้องวงจรปิดแแบบไหนดี ลองติดต่อเราก็ได้นะครับ