ค่า IP CODE ที่มักจะมีการระบุเอาไว้บนกล่องหรือบนใบสเปกของกล้อง อย่างเช่นกล้องวงจรปิด IP65 หรือกล้องวงจรปิด IP68 เป็นต้น นี่ไม่ใช่หมายเลขรุ่นอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นการบอกถึงมาตรฐานความทนทานของตัวกล้องนั่นเอง โดยมีหลักในการแปลความหมายดังนี้
- ตัวเลขหลักแรก หมายถึงความทนทานต่อสิ่งที่เป็นของแข็งประเภทฝุ่นละออง ยิ่งตัวเลขมากเท่าไรก็ยิ่งดี เพราะกล้องจะสามารถป้องกันฝุ่นละอองที่มีอนุภาคเล็กมาก ๆ ได้ โดยตัวเลขมีตั้งแต่เลข 0 ที่ป้องกันอะไรไม่ได้เลย ไปจนถึงหมายเลข 6 ที่เป็นระดับการป้องกันสูงสุด 100%
- ตัวเลขหลักที่สอง หมายถึงความทนทานต่อสิ่งที่เป็นของเหลว นั่นก็คือตัวกล้องสามารถกันน้ำได้หรือไม่และป้องกันได้อย่างไร ซึ่งมีทั้งแบบที่ป้องกันในบางองศาและป้องกันรอบทิศทาง ตัวเลขเริ่มต้นที่ 0 แล้วไปจบที่เลข 8 อันเป็นคุณสมบัติที่สามารถใช้งานใต้น้ำได้เลย พร้อมกับมีการระบุชัดเจนว่ารองรับการใช้งานในระดับลึกที่สุดเท่าไร
- ตัวอักษรท้ายตัวเลข หมายถึงการป้องกันแบบพิเศษที่เราจะไม่ได้เห็นกันบ่อยนัก อย่างเช่น IP66K หรือ IP69f เป็นต้น แน่นอนว่าในกล้องวงจรปิดนั้นแทบจะไม่มีให้เห็นเลย เพราะมักจะอยู่กับอุปกรณ์เฉพาะทางเท่านั้น โดยมีตั้งแต่การป้องกันน้ำมัน ป้องกันไฟฟ้าแรงดันสูง ตลอดจนถึงทนต่อสภาพอากาศอันเลวร้าย
ค่า IP CODE จะบอกให้เราทราบว่ากล้องวงจรปิดรุ่นที่สนใจนั้น สามารถเอาไปใช้งานแบบที่เราต้องการได้หรือไม่ ถ้าติดตั้งภายนอกจะกันน้ำกันฝุ่นได้เท่าไร ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างสำคัญและจะเป็นตัวชี้วัดว่าเราจะใช้งานกล้องได้นานแค่ไหนอีกด้วย ความจริงแล้วค่าไอพีโค๊ตไม่ได้มีเฉพาะในกล้องวงจรปิดเท่านั้น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายประเภทก็มีมาตรฐานนี้ด้วยเช่นกั